ชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง (วันรณรงค์ตรวจ HIV)

30 มิ.ย. 66

วันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปี เนื่องในวันรณรงค์ตรวจเอชไอวี (VCT DAY) ปัจจุบันสังคมโลกให้เสรีและความเท่าเทียมของการแสดงออกเรื่องเพศมากขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มาแบบไม่ทันระวัง อย่างโรคเอดส์ (HIV) นั่นเอง การรู้และรับมือแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ อย.จึงนำสาระเกี่ยวกับ ชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง ที่ควรรู้มาฝากกัน

ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเองถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการคัดกรองการติดเชื้อ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น รวมถึงเข้าสู่ระบบการป้องกันการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วและลดอัตราการแพร่เชื้อ
                  
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV Self Test) คือ ชุดเครื่องมือทางการแพทย์ที่ออกแบบมา เพื่อให้ผู้ที่ต้องการทราบสถานะการติดเชื้อเอชไอวีสามารถตรวจได้ด้วยตัวเองอย่างสะดวกรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี แต่ไม่ต้องการหรือไม่สะดวกในการเข้ารับการตรวจคัดกรองยังสถานพยาบาลเนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัว โดยชุดตรวจที่มีประสิทธิภาพจะต้องได้รับการรับรองจากองค์กรระดับสากลอย่างถูกต้อง      
ปัจจุบันประเทศไทยมีชุดตรวจที่ผ่านการขึ้นทะเบียนทั้งหมด 2 แบบ คือ
               1
การตรวจด้วยวิธีการเจาะเลือดที่นิ้วมือ
เป็นการเจาะเลือดจากปลายนื้วมือ แล้วนำตัวอย่างเลือดผสมน้ำยาทดสอบหยดลงบนแผ่นทดสอบ จากนั้นจึงอ่านค่าที่ได้จากแผ่นทดสอบ โดยการตรวจแบบนี้จะมีความแม่นยำและใช้เวลาเพียง 1-15 นาที สามารถรู้ผลได้ทันที (ขึ้นอยู่กับชนิดของชุดตรวจ)
2. 
การตรวจด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำในช่องปาก
คือ การใช้แผ่นเก็บตัวอย่างที่ด้านปลายชุดตรวจ ป้ายที่ซอกเหงือกด้านบนและด้านล่าง 1 รอบต่อเนื่อง โดยให้แผ่นป้ายอยู่ภายในช่องปากหรืออยู่ในบริเวณเหงือกตลอดเวลา เมื่อเสร็จแล้วให้นำแผ่นปลายชุดตรวจ ใส่ลงในหลอดน้ำยา ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วอ่านผลตรวจ วิธีการนี้ค่อนข้างสะดวกในกรณีที่ไม่ต้องการเจาะเลือดด้วยตนเองและใช้เวลาไม่นานในการอ่านผล สำคัญคือควรงดดื่มน้ำและกินอาหารก่อนตรวจอย่างน้อย 15 นาที และไม่ควรทำความสะอาดช่องปากก่อนตรวจอย่างน้อย 30 นาที ถอดที่ครอบฟันออกก่อนทุกครั้ง
การใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองเหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาแล้ว 90 วัน เนื่องจากอยู่ในระยะที่ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ต่อเชื้อเอชไอวี หากผู้ตรวจได้รับเชื้อแต่อยู่ในระยะฟักตัว อาจมีโอกาสตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ซึ่งผลการตรวจโดยชุดตรวจเอชไอวีอาจให้ผลเป็นลบ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายมีเชื้อเอชไอวีอยู่
ในกรณีที่ใช้ชุดตรวจไม่ถูกต้อง เช่น ตรวจหลังจากมีความเสี่ยงเพียงไม่กี่วัน การหยดเลือดน้อยหรือมากเกินไป หรือกรณีอื่น  อาจส่งผลให้การตรวจมีความผิดพลาด ทำให้การอ่านค่าจากชุดตรวจผิดได้

ควรเลือกชุดตรวจเอชไอวีที่มีคุณภาพได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย.   มีการแสดงฉลากข้อความภาษาไทยอย่างละเอียด ประกอบด้วยชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต  เลขที่ใบอนุญาต เดือนและปีที่หมดอายุของชุดตรวจ บรรจุภัณฑ์มีความสะอาดปลอดภัย มีคู่มือแนะนำการใช้งานอย่างละเอียดครบถ้วน

           ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง เป็นเครื่องมือในการคัดกรองผู้ติดเชื้อเบื้องต้นเท่านั้น จึงไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่าติดเชื้อหรือไม่ กรณีที่ผลออกมาเป็นบวกจะต้องเข้ารับการตรวจยืนยันจากสถานพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อยืนยันผลอย่างเป็นทางการโดยแพทย์อีกครั้งหนึ่ง หากผลเป็นลบท่านควรได้รับบริการด้านการป้องกัน เช่น การให้คำปรึกษา หรือใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) (oryor.com)